เอทีเอส

ATS สามารถสั่งการทำงานด้วย #Dry Contact...

1.#ประยุกต์กับระบบไฟฟ้า 2 แหล่งจ่าย

2.#ประยุกต์ร่วมระบบควบคุมระยะไกลได้

3.#ความปลอดภัย ก่อนในการใช้งานกรณีฉุกเฉินได้

4.#ควมคุมด้วยสวิตช์ on -off-on ด้วยมือได้ (เปิดหรือปิด ด้วย Push bottom SW.)

5.#ประยุกต์ร่วมระบบควบคุมอื่นๆ เช่น PLC ,ควบคุมระยะไกลด้วยระบบ IOT

6.#ประยุกต์ใช้กับระบบผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลส์ ,พลังงานทางเลือกอื่นๆ

7.#ควบคุมเอทีเอส ตาม Function ที่ต้องการได้ On -Off- On มีความปลอดภัย

8.#ประยุกค์ใช้งานหากหลายแบบ ร่วมกับระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ พลังงานทางเลือกแบบอื่น เช่น ฺBio-Gas Generator.

9.#สลับเปลี่ยน 2 แหล่งจ่ายไฟฟ้า # 1 ,# 2

ข้อดี การต่อเอทีเอส แบบใช้ Dry Contact

1.ประยุกค์ใช้ได้หายแบบ หลากหลาย ควบคุมระยะไกลร่วมกับระบบ IOT ได้

2. เพิ่มความปลอดภัย สามารถสั่ง OFF หรือ ON ตาม Function การใช้งานได้

ข้อเสีย การต่อเอทีเอส แบบใช้ Dry Contact

1.ไฟฟ้าต้องแช่ที่ Coil ของ Relay ตลอดเวลาการใช้งาน ทำให้เกิดความร้อนสะสม อาจเกิดความเสียหายได้ง่ายขึ้น กว่าแบบไม่ใช้ไฟฟ้าแช่

2.เมื่อต้องมีไฟฟ้าแช่ที่ Coil ของ Relay ตลอดเวลา หากไม่ได้ติดตั้ง (Surge Protective Device) เมื่อมีกระแสเสริจ์ มาจากหลายสาเหตุเช่น แรงดันไฟฟ้าเกิน (ในระบบ) Lightning type Impluse หรือ ฟ้าผ่า หรือ ฟ้าลง Lightning อุปกรณ์ภายในตัวเอทีเอสเสียหายได้ง่ายกว่า ไม่ได้ติดตั้งตัว SPD ส่วนใหญ่จะจ่ายเป็น Pulse จ่ายไฟฟ้าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ให้เอทีเอสทำงาน แล้วปลดไฟฟ้าออก โดยมากช่างผู้ชำนาญการจะจ่ายเป็น Pulse โดยใช้ ATS Controller ,Gen set controller หากมีกระแส Surge ทำความเสียหายให้กับเอทีเอสได้น้อยกว่า

3.ออกแบบวงจร Wiring ได้ยากกว่า ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเยอะเกินไป พื้นที่เยอะกว่า แบบใช้ Controller..... ....PLC....